Prime DPS เครื่องมือเพิ่มยอดขาย ผู้ช่วยวางแผนธุรกิจ

  •             ระบบ Prime Demand Planning System (Prime DPS หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Prime ก็ได้) เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ไม่ว่าขนาดเล็ก กลางหรือขนาดใหญ่สามารถวางแผนการผลิตหรือจัดซื้อและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการใช้งานที่แม่นยำในการพยากรณ์และเติมสินค้าคงคลังที่เหมาะสม ภายใต้โครงสร้างซัพพลายเชนขององค์กรที่ซับซ้อนได้ ระบบ Prime สามารถวิเคราะห์ยอดขายสินค้าที่มีคุณลักษณะความเร็วในการการขายที่แตกต่างกัน ช่องทางการขายที่แตกต่างกัน ต้นทุนที่แตกต่างกัน และนำมาประมวลผลเพื่อใช้ในการพยากรณ์และการตัดสินใจและวางแผนธุรกิจ

การใช้ Prime วิเคราะห์และวางแผนธุรกิจ


  •           เครื่องมือนี้สามารถใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและวางแผนการเติมเต็มสินค้าในธุรกิจที่มีจำนวนรายการสินค้ามากๆ และยากที่จะสามารถบริหารได้ง่ายด้วยการใช้ Excel ในการทำงานอย่างเดียว

1. การพยากรณ์แนวโน้มการขายด้วยข้อมูลอดีต


  •             Prime DPS มีระบบพยากรณ์ Prime Forecaster (PF) ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการขายในอดีต รวมทั้งยอมให้มีการประมาณการจากฝ่ายขายเพื่อทดแทนค่าพยากรณ์ทางสถิติ ทั้งนี้เพื่อการบูรณาการข้อมูลร่วมกัน และช่วยให้คาดการณ์ยอดขายในอนาคตได้แม่นยำยิ่งขึ้น ก่อนที่จะนำไปใช้ในการตัดสินใจเติมเต็มสินค้าในอนาคต

  •             ในเชิงวิชาการพฤติกรรมของยอดขายของสินค้าในธุรกิจสามารถแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ คือ

    •                         1. แบบที่มีการขายสม่ำเสมอ (Smooth) ซึ่งอาจจะมีฤดูกาล
    •                         2. แบบที่มีการขายแบบกระปิดกระปอย (Intermittent)
    •                         3. แบบที่มีการขายก้อนใหญ่ๆเป็นช่วงๆ (Lumpy)
    •                         4. แบบไม่แน่นอน (Erratic)

              ทั้งสี่รูปแบบนี้จึงสร้างความท้าทายในการพยากรณ์เป็นอย่างมาก ระบบ PF มีวิธีการพยากรณ์ที่ครอบคลุมพฤติกรรมทั้ง 4 รูปแบบ ทำให้ PF สามารถตรวจจับแนวโน้มตลาดที่กำลังเกิดขึ้นของพฤติกรรมของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ หรือแนวโน้มการเกิดเทรนด์ใหม่ ๆ ที่อาจมีผลต่อยอดขาย PF นอกจากนั้น PF ยังมีความสามารถในการทดสอบความแม่นยำของค่าพยากรณ์เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลในอดีตดังภาพข้างล่าง




  •          ระบบ PF มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประเภท Machine Learning (ML) มาปรับปรุงการพยากรณ์ให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งเราพบว่า ML มีประสิทธิภาพสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลรูปแบบ Lumpy และ Erratic นอกจากนั้นระบบ PF ยังใช้เทคนิค Combination Forecast ซึ่งเป็นการผสมผสานค่าพยากรณ์จากวิธีต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้มีระบบ Prime Expert ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพยากรณ์ยอดขายของธุรกิจต่าง ๆ ได้

2. การเติมสินค้าคงคลัง (Replenishment/Refill)


  •              Prime DP มีระบบเติมเต็ม Prime Master Fulfillment Optimizer (MFO) ที่ถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นเพื่อสนับสนุนโครงข่ายซัพพลายเชนที่มีคลังสินค้าสำหรับเก็บสินค้าที่ได้รับการเติมเต็มจากซัพพลายเออร์ และมีสาขาที่ได้รับการเติมเต็มจากคลังสินค้าดังรูปข้างล่าง


  •            โดยที่ Vendor หมายถึงซัพพลายเออร์ หรือโรงงานผลิต, FC0 คือ Fulfillment Center เช่นศูนย์กระจายสินค้าหรือคลังสินค้า, FC1, FC2 และ FC3 อาจจะหมายถึงคลังย่อยหรือสาขาย่อย, และ FC0, FC1, FC2, และ FC3 demand หมายถึงอุปสงค์หรือความต้องการของลูกค้าที่เกิดขึ้น ณ จุดต่าง ๆ ในโครงข่าย เป็นต้น

  •           ระบบ Prime MFO ตอบโจทย์การจัดการสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่สินค้าที่เก็บได้นานไม่เน่าเสียง่าย (non-perishables), สินค้าที่เน่าเสียง่าย (perishables) เช่น อาหาร ยา และเคมีภัณฑ์ที่มีอายุจำกัด ไปจนถึงธุรกิจสินค้าแฟชั่นที่ไม่เน่าเสียแต่มักจะมีวงจรชีวิตสั้น เช่น เสื้อผ้าแฟชั่นที่มีการสั่งซื้อครั้งเดียวสำหรับฤดูการขาย 3 - 6 เดือน และมีคุณลักษณะเป็นสีและขนาดต่าง ๆ เป็นต้น ระบบ Prime จึงเหมาะสำหรับธุรกิจที่มีความต้องการในการจัดการความคล่องตัวและความเร็วในการตอบสนองต่อตลาด




  •          เนื่องจากบางสินค้ามีความสำคัญในการดูแลเป็นพิเศษ ที่เราต้องการดูระดับสต็อกทุกวัน ทุก 3 วัน ทุกสัปดาห์ เป็นต้น ระบบไม่บังคับให้ดูสต็อกเป็นรายเดือนได้เท่านั้น เราสามารถกำหนดปฏิทินของ Review Pattern ได้เองเนื่องจากมีวันหยุดของบริษัท รวมทั้งบางครั้งวันหยุดของซัพพลายเออร์ เช่น ซัพพลายเออร์ในประเทศจีนที่หยุดทำงานช่วงตรุษจีน ความยืดหยุ่นของการกำหนดจังหวะการสั่งซื้อจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารธุรกิจ ซึ่งจะกระทบต่อระบบการใช้เงินในการสั่งซื้อเพื่อเติมเต็ม เมื่อนำข้อมูลมาบูรณาการกับระยะเวลาในการสั่งซื้อ (Lead Time) ข้อบังคับในการสั่งซื้อขั้นต่ำ (Min/Max/Mult) จะมีผลต่อการรักษาระดับสต็อกที่ใช้บริการลูกค้า

  •            Prime MFO มีนโยบายการสั่งซื้อให้เลือกหลายรูปแบบ นโยบายในการกำหนดปริมาณสินค้าเผื่อขาด (safety stock) เช่น จำนวนวัน (days supply) ที่จะมีผลต่อระดับการให้บริการ (Service Level) ซึ่งแต่ละรูปแบบมีผลต่อระดับการลงทุนในการถือครองสต็อกทั้งสิ้น Prime MFO มีความสามารถอีกมากมาย เช่น Exchange Curves ที่จะช่วยวิเคราะห์ปริมาณการลงทุน safety stock ของสินค้าแต่ละ category และให้ผู้บริหารมีข้อมูลในการตัดสินใจเรื่องระดับการลงทุน ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพเศรษฐกิจ

3. การรายงานและการแสดงผลข้อมูล


  •             Prime มีรูปแบบการรายงานหลากหลาย รวมทั้งใช้ Tableau BI สร้างรายงานและการแสดงผลข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น กราฟ แผนภูมิ และแดชบอร์ด เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตีความผลลัพธ์และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความมีทัศนวิสัยในการมองเห็นภาพรวมของธุรกิจส่วนต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก

  •             Prime สามารถทำงานร่วมกับระบบต่าง ๆ เช่น ระบบ CRM, ERP และข้อมูลภายนอกอื่น ๆ โดยรวมข้อมูลจากระบบเหล่านี้มาใช้ในการประมวลผลและการพยากรณ์ เพื่อให้ได้ภาพรวมที่ครอบคลุมและแม่นยำยิ่งขึ้นในการตัดสินใจทุกระดับที่เกี่ยวกับการจัดซื้อและการขาย

4. ประโยชน์ของการใช้ Prime ในธุรกิจ


  •             การใช้ Prime อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจสามารถคาดการณ์แนวโน้มและเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอน ตัดสินใจและวางแผนแคมเปญการตลาดได้ตรงตามแนวโน้มและฤดูกาล เพิ่มโอกาสในการขาย ผลิตสินค้าเป็นไปตามความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น วางแผนการใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดความเสี่ยงทางการเงิน และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ทำให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน




  • สนใจใช้บริการ โปรแกรม Forecast สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
  • บริษัท เอ็มโฟกัส จำกัด
  • Phone : (+662) 513-9892
  • Email : marketing@m-focus.co.th